Professional Documents
Culture Documents
(แนวคำาตอบ)
ย่อหน้าที่หนึ่งเน้นหนักไปทางแก่นกฎหมายแยกเป็นหมวดหมู่สาระสำาคัญ
-ผู้แทนโดยชอบธรรมมีสิทธิ...
1.ให้สัตยาบันแก่นิติกรรมออันเป็นโมฆียะนั้นให้สมบูรณ์ได้หรือ
2.บอกล้างนิติกรรมอันเป็นโมฆียะนั้นให้ตกเป็นโมฆะ
-การให้สัตยาบันต่อนิติกรรมที่ผู้เยาว์ได้ทำาไปโดยไม่ได้รับความยินยอมของผูแ้ ทนโดยชอบธรรมนั้นย่อมกระทำาได้โดยแสดงเจตนาต่อคู่กรณี
อีกฝ่ายหนึ่งและมีผลให้นิติกรรมดังกล่าวสมบูรณ์ตลอดไป
ก.ทางเลือกที่หนึ่ง หากนายเด่นตัดสินใจยอมรับนิติกรรมซึ่งหมายถึงสัญญาซื่อขายที่เด็กชายดีบุตรของตนในฐานะผู้ขายได้ทำาขึ้นกับ
นายดังในฐานะผู้ซื้อ นายเด่นสามารถให้สัตยาบันแก่นิติกรรมหรือสัญญาซื้อขายนั้นได้ด้วยการแสดงเจตนายินยอมให้นายดังรับทราบ หรือ
ทอกระยะเวลาออกไปให้พ้นหนึ่งปีนับแต่เวลาที่อาจให้สัตยาบันได้หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่เด็กชายดีและนายดังทำานิติกรรมซึ่งหมายถึงสัญญา
ซือ้ ขายนั้น
ข. ทางเลือกที่สอง หากนายเด่นตัดสินใจไม่ยอมรับนิติกรรมซึ่งหมายถึงสัญญาซื้อขายที่เด็กชายดีบุตรของตนในฐานะผู้ขายได้ทำา
ขึ้นกับนายดังในฐานะผู้ซื้อ นายเด่นสามารถบอกล้างนิติกรรมหรือสัญญาซื้อขายนั้นได้ด้วยการแสดงเจตนาบอกล้างให้นายดังทราบ มีผลให้
นิติกรรมซึ่งหมายถึงสัญญาซื้อขายนั้นตกเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรกและให้เด็กชายดีและนายดังคู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิมคือเด็กชายดีต้องคืน
ราคาคือเงินค่าซื้อรถจักรยานที่ได้รับจากนายดังให้แก่นายดังไป และนายดังต้องคืนรถจักรยานคันที่เด็กชายดีส่งมอบให้เพราะเป็นการปฏิบัติ
ตามการซื้อขาย และถ้าเป็นการพ้นวิสัยที่จะได้คืน เช่นนายดังทำาให้รถจักรยานพังเสียหาย นายดังก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายแก่เด็กชายดี
สรุปหรือธง
วิธีการเขียนตอบ “ข้อสอบอุทาหรณ์”
(1) โครงสร้างของการเขียนตอบข้อสอบอุทาหรณ์
1. ประเด็นของคำาถาม
2. หลักกฎหมาย
3. การปรับบทกฎหมายเข้ากับข้อเท็จจริง
4. การสรุปคำาตอบ
ส่วนนี้อาจถือได้ว่าเป็นส่วนสุดท้ายที่จะมาเติมเต็มให้กับการเขียนตอบข้อสอบของนักศึกษาจบลงด้วยความสมบูรณ์ ทั้งนี้แม้นักศึกษาจะจับ
ประเด็น วางหลักกฎหมาย หรือปรับบทที่ถูกต้อง แต่หากนักศึกษาไม่สรุปคำาตอบให้ตรงกับคำาถามที่โจทย์ถาม ก็เหมือนนักศึกษายังไม่ได้ทำา
ในสิ่งทีผ่ ู้ถามประสงค์จะให้ทำา ซึง่ นักศึกษาอาจเสียคะแนนที่ไม่ควรจะเสียไป
อ.จะแค่สอนเสริมให้ไม่กี่ครั้งทีเ่ หลืออ่านเองทำาความเ¢้้าใจเองใครไม่เ¢้้าใจต้องโทรไปถามกันเอาเอง
แพ่ง 1 เป็นวิชาพื้นฐานใครๆก็อาจคิดว่ามันไม่ยากสบายๆ
สุดท้ายได้ U กันเพราะไม่เ¢้้าใจในเนื้อเอาประสบการณ์ส่วนตัวมาตอบโดยไม่ได้อ้างอิงตัวบทกฎหมาย
(ผู้เ¢้ียนเองก็ยังต้องปรับทัศนคติ ก่อนเรียนวิชานี้จึงสอบผ่านมาได้)
เรียนมสธ.มานานพอควรสอบผ่านในแทบทุกรายวิชาและลงประสบการณ์วิชาชีพฯไปแล้ว
เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า นศ.ทุกท่านที่สอบไม่ผ่านไม่ได้หมายความว่าเ¢าโง่
***เรื่องอ่านหนังสือ 2 เล่มอ่านไม่จบไม่ใช่ปัญหาแต่ปัญหาคืออ่านจบแล้วคุณเ¢้้าใจมันรึเปล่า
แต่ผเู้ ¢้ียนมีวิธีแนะนำาคือนำาโจทย์ที่ได้มานั้นหัดทำาด้วยตนเองเสียก่อนจากนั้นค่อยดูเฉลยและนำาตัวบทมาเทียบเคียงว่า
ที่ตอบไปนั้นผิดพลาดตรงไหน เพราะถึง¢้้อสอบไม่ออกแบบเดิมแต่ตัวบทกฎหมายนั้นยังคงเหมือนเดิม(ยกเว้นกฎหมายมีการแก้ไ¢
โชคดีทุกท่านในการสอบซ่อม
แพ่ง 1 ปราบเซียน สำาหรับผมเหมือนกัน นะ ส่วนตัวผมแล้วคิดว่า แพ่ง 1 เป้นวิชาเริ่มต้น ของแพ่ง และ หลักการเขียน ทางแพ่ง
ให้ได้คะแนนดี มันจะต่างกันกับอาญานิดๆ ร่วมทั้งตัวบทที่ยืดยาวปรับหลายมาตรา ต่อ 1 ข้อ แต่เมื่อใดที่คนแพ้ทางแพ่ง 1 ผ่านแพ่ง 1 ไป
ได้ จะรูว้ ่าไม่มีวิชาใดยากสำาหรับท่านอีกเลย ใน นิติมสธ. เคล็ดลับส่วนตัวผมเอง จะไม่ท่องว่ามาตราว่าไว้อย่างไร แต่ผมจะจำาว่า ถ้ามาตรานี้
ถ้าจะหลอกจะหลอกอย่างไร เพื่อเป้นการดักทางไว้ก่อน
สิ่งสำาคัญเหนือ การท่องจำาคือความเ¢้้าใจครับเมื่อใจแล้วการท่องจำาเป็นเรื่องรองครับ
เท่านี้เวลาสอบคุณก็เห็นธงใน¢้้อนั้นตั้งแต่อ่านโจทย์แล้ว
การสอบแพ่ง 1 ให้ผ่านคุณจะต้องเ¢้้าใจว่าโจทย์ถามเรื่องอะไร
โชคดีในการสอบครับ
จึงไม่ยอมคืนให้ ..ก็อธิบายปายว่าเห็นด้วยหรือไม่ประมาณนี้น่ะนะ
ส่วนใครที่สามารถจำาได้ทุกมาตราในขณะเรียนนี่ต้องบอกว่าผมนับถือยกย่องจริง นับว่าจะเป็นผู้ประสบความสำาเร็จในการเรียนกฎหมายและ
จะเป็นนักกฎหมายที่แท้จริง ส่วนผมขอเป็นผู้รู้กฎหมายก็พอมากกว่าคนทั่วไปก็พอ
ข้อความจาก mjupost28
ส่วนที่ไม่เน้น ผมอ่านให้เข้าใจครับถ้าเข้าใจก็ไม่ยากที่จะสอบผ่าน
ข้อความจาก harakeeree
วันที่ 2 กรกฎาคม 2552 เวลา 16:45
ข้อความจาก สนิมแดง
ข้อความจาก หมอดู
ข้อความจาก mjupost28
ข้อความจาก Niti51
ข้อความจาก sawai
ข้อความจาก mjupost28
สภาพบุคคลเริ่มตั้งแต่อยู่รอดเป็นทารกและสิ้นสุดลงเมื่อตาย ม.15
ส่วนข้อยกเว้นที่ไม่ต้องขอความเห็นชอบจากผู้แทนโดยชอบธรรม
หากย่อนไปกระทู้ก่อนๆท่านปีศาลสายฟ้าได้บรรยายาภาพรวมไว้ได้ดีมากแล้วครับ
ข้อความจาก mjupost28
3.ไม่ถูกต้องตามแบบเป็นโมฆะ
หากย่อนไปกระทู้ก่อนๆท่านปีศาลสายฟ้าได้บรรยายาภาพรวมไว้ได้ดีมากแล้วครับ
ข้อความจาก mjupost28
มีตวั ที่ต้องดูการก่อเกิดสัญญาเกิดได้อย่างไร
หรือไม่จะออกผลแห่งสัญญา
ไม่ยากเกินไปครับลองดูนะครับพยายามดู
ความสามารถบุคคล
- คนไร้ความสามารถ
- คนเสมือนไร้ความสามารถ
2. ผูเ้ ยาว์ทำานิติกรรมได้หรือไม่ ??
- มีนิติกรรมบางประเภท ที่ผู้เยาว์ทำาได้เองโดยไม่ต้องขอความยินยอม
3. ใครคือผู้แทนโดยชอบธรรม ??
4. อำานาจหน้าที่ของผู้แทนโดยชอบธรรม
- ยินยอมให้ทำานิติกรรมใดๆ (ม.21)
- ยินยอมให้จำาหน่ายทรัพย์สินทั้งระบุและไม่ระบุวัตถุประสงค์ (ม.26)
- ยินยอมให้หมั้น (ม.1436)
- ยินยอมให้สมรส (ม.1454)
- ให้การอุปการะเลี้ยงดูและการศึกษา (ม.1564)
- การโอนทรัพย์สินโดยมีการแต่งตั้งผู้จัดการไว้แล้ว (ม.1577)
- บิดามารดาสละมรดก (ม.1615)
6. ใครเป็นผู้มีสิทธิบอกล้างโมฆียกรรม (ม.175)
- ผูแ้ ทนโดยชอบธรรม
- ทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก
7. ผลของการบอกล้างโมฆียกรรม (ม.176)
- นิติกรรมนั้นเป็นโมฆะมาแต่เริ่มแรก คู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิม
- ถ้าเป็นการพ้นวิสัยจะให้กลับคืนเช่นเดิมได้ ต้องชดใช้ค่าเสียหายแทน
8. ใครเป็นผู้มีสิทธิให้สัตยาบัน (ม.177)
9. ผลของการให้สัตยาบัน (ม.177)
- นิติกรรมนั้นเป็นอันสมบูรณ์แต่เริ่มแรก
- ต้องไม่กระทบต่อสิทธิของบุคคลภายนอก
- แสดงเจตนาแก่คู่กรณีอีกฝ่ายได้รู้ ก็เพียงพอแล้ว
- ได้ปฏิบัติการชำาระหนี้แล้วทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
- ได้มีการเรียกให้ชำาระหนี้นั้นแล้ว
-ได้มีการแปลงหนี้ใหม่
- ได้มีการให้ประกันเพื่อหนี้นั้น
- ได้มีการโอนสิทธิหรือความรับผิดชอบทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
- ได้มีการกระทำาอย่างอื่นอันแสดงได้ว่าเป็นการให้สัตยาบัน
- ภายใน 10 ปี นับแต่วันทำานิติกรรมที่เป็นโมฆียะ
บุคคลวิกลจริต
ชอบและไม่สามารถประกอบการงานได้
คนไร้ความสามารถ : คนที่ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถแล้ว
2. วิธีการที่ทำาให้บุคคลกลายเป็นคนไร้ความสามารถ (ม.28)
- ต้องเป็นคำาสั่งศาลเท่านั้น
- ผูม้ ีสิทธิร้องขอต่อศาล
* คู่สมรส
- คำาสั่งศาลต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา
3. นิติกรรมที่เกี่ยวข้องกับคนไร้ความสามารถ
- คนไร้ความสามารถเอง เมื่อหายดีแล้ว
- บุคคลในกลุ่มเดียวกับที่ระบุใน ม.28
- คำาสั่งศาลต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา
5. ผูใ้ ดมีสิทธิเป็นผู้อนุบาล ??
- กรณีคนไร้ความสามารถยังไม่ได้สมรส
- กรณีคนไร้ความสามารถสมรสแล้ว
3. ใครเป็นผู้มีสิทธิบอกล้างหรือให้สัตยาบันโมฆียกรรม
คนเสมือนไร้ความสามารถ
4. คำาสั่งศาลต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ม.32)
(1) นำาทรัพย์สินไปลงทุน
จรรยา
ทรัพย์อันมีค่า
ถอนผู้พิทักษ์
- คนไร้ความสามารถเอง เมื่อหายดีแล้ว
- บุคคลในกลุ่มเดียวกับที่ระบุใน ม.28
- คำาสั่งศาลต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา
7. ผูใ้ ดมีสิทธิเป็นผู้พิทักษ์ ??
- กรณีคนไร้ความสามารถยังไม่ได้สมรส
- กรณีคนไร้ความสามารถแต่งงานแล้ว
นิติกรรม และการแสดงเจตนา
นิติเหตุ
- นิติกรรม (ม.149)
- การกระทำาละเมิด (ม.420)
2.2.1 นิติเหตุในกฎหมายอย่างกว้าง
(1) นิติเหตุที่เกิดจากเหตุการณ์ธรรมชาติ
(2) นิติเหตุที่เกิดจากการกระทำาของบุคคล
(2.1) การกระทำาที่ชอบด้วยกฎหมาย
- การกระทำาของบุคคลที่ชอบด้วยกฎหมาย
- การกระทำาของบุคคลที่เกิดผลขึ้นเองโดยอำานาจกฎหมาย
(2.2) การกระทำาที่มิชอบด้วยกฎหมาย
ของกฎหมายโดยแท้จริง ได้แก่
(1) การกระทำาของบุคคลที่เกิดผลขึ้นเองโดยอำานาจกฎหมาย
(2) การกระทำาที่มิชอบด้วยกฎหมาย
3. รายละเอียดข้างต้น ทำาให้ทราบว่า
(1) นิติเหตุ ได้แก่ การเกิด การบรรลุนิติภาวะ การตาย ที่งอกริมตลิ่ง การจัดการงานนอกสั่ง ลาภมิควรได้ การกระทำา
ละเมิด และนิติกรรม
นิติกรรม
3 กระทำา 2 ต้องการ
(1) การกระทำาของบุคคล
(2) การกระทำาโดยชอบด้วยกฎหมาย
(3) การกระทำาด้วยใจสมัคร
(4) ต้องการผูกนิติสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
(5) ต้องการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ
ต่างเข้าใจ และตกลงกัน
- การแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้อยู่เฉพาะหน้า ให้ถือว่ามีผลเมื่อผู้รับเจตนาได้ทราบและเข้าใจเจตนานั้น
หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ถือว่าการแสดงเจตนานั้นยังมีผลอยู่
- การแสดงเจตนาทางโทรเลขหรือโทรสาร ไม่ถือว่าเป็นการแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้อยู่เฉพาะหน้า
- ถ้าจะถอนการแสดงเจตนา ผู้แสดงเจตนาจะต้องส่งคำาถอนนั้นไปถึงผู้รับเจตนาก่อนหรือพร้อมกับการ
แสดงเจตนาดังกล่าวไปถึง
หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ถือว่าการแสดงเจตนานั้นยังมีผลอยู่
ในบ้านคนหนึ่งคนใดรับแทน ก็ใช้ได้แล้ว
เจตนานั้นไม่เป็นผล
- การแสดงเจตนาทำานิติกรรมของผู้เยาว์ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจการค้าหรือการจ้างแรงงาน
มาตรานี้
หลักขัดขวางการแสดงเจตนา
ร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน (ม.150)
- นิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ถือว่า
นิติกรรมนั้นเป็นโมฆะ
- ถ้าเป็นเรื่องที่จัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นโมฆะ
- ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆ ไม่เป็นโมฆะ
ผู้พิทักษ์ก่อน
การควบคุมการแสดงเจตนา
- การแสดงเจตนาซ่อนเร้น (ม.154)
คิดเองทำาเอง อีกฝ่ายไม่รู้
คิดเองทำาเอง อีกฝ่ายรู้
- นิติกรรมที่เกิดจากการแสดงเจตนาลวง เป็นโมฆะ
คิดอย่าง ทำาอย่าง
ต้องการจะผูกนิติสัมพันธ์กันจริงๆ
- นิติกรรมที่เป็นนิติกรรมอำาพราง เป็นโมฆะ
- นิติกรรมที่เป็นนิติกรรมถูกอำาพราง มีผลบังคับทางกฎหมาย
“สาระสำาคัญ” แห่งนิติกรรมนั้น
ชื่อในสัญญากู้ยืม
สัญญาจ้างกับอีกคนหนึ่ง
ทำาสัญญาซื้อขายที่ดินอีกแปลงหนึ่ง
- ผลของการการแสดงเจตนาโดยสำาคัญผิดดังกล่าว เป็นโมฆะ
- ข้อสังเกตบางประการ
* ถ้าเป็นเพียงแต่สำาคัญผิดในมูลเหตุจูงใจ แต่ไม่ถึงขนาดจะเป็นวัตถุประสงค์แห่งนิติกรรม
ไม่ถือว่าเป็นการสำาคัญผิดในสาระสำาคัญแห่งนิติกรรม
ต่อศาล
- เป็นการแสดงเจตนาสำาคัญผิดในคุณสมบัติที่เป็น “สาระสำาคัญ”
- คุณสมบัติที่เป็นสาระสำาคัญในมาตรานี้ ได้แก่
โง่เอง เซ่อเอง
* คุณสมบัติของบุคคลซึ่งเป็นคู่กรณีแห่งนิติกรรม หรือ
* คุณสมบัติของทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม
- ผลของการการแสดงเจตนาโดยสำาคัญผิดดังกล่าว เป็นโมฆียะ
ของใหม่ทำาเลียนแบบ
ไว้ดังนี้
- เป็นความประมาทเลินเล่อจากการสำาคัญผิดใน ม.157 และ ม.158
โง่เอง ซวยเอง
- เป็นความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง
- ต้องเป็นกลฉ้อฉลถึงขนาดให้แสดงเจตนาออกมา
- นิติกรรมที่เกิดจากกลฉ้อฉลนี้ เป็นโมฆียะ
- คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งรู้เห็นเป็นใจกับบุคคลภายนอกด้วย
- ต้องเป็นกลฉ้อฉลถึงขนาดให้แสดงเจตนาออกมา
- นิติกรรมที่เกิดจากกลฉ้อฉลนี้ เป็นโมฆียะ
เจตนายอมรับข้อกำาหนดที่หนักขึ้น
คุณสมบัติไม่ถึง
- นิติกรรมที่เกิดจากกลฉ้อฉลเพื่อเหตุ ไม่เป็นโมฆะ
- ผูแ้ สดงเจตนามีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนได้
แกล้งไม่พูด
ไม่ได้เปิดเผยความจริงออกมา
- การนิ่งเฉยต้องเป็นกรณีที่ทำาให้เกิดกลฉ้อฉลถึงขนาด
- ผูแ้ สดงเจตนามีสิทธิบอกล้างได้
- ผูแ้ สดงเจตนาตั้งใจใช้กลฉ้อฉลกับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งให้ทำานิติกรรม
ต่างคน ต่างโกง
- คู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งก็ใช้กลฉ้อฉลด้วยเช่นกัน
- กฎหมายบังคับมิให้ทั้งสองฝ่ายบอกล้าง และเรียกค่าเสียหายซึ่งกันและกัน
- ต้องเป็นการข่มขู่ถึงขนาด
- ผลของนิติกรรมที่เกิดจากภัยข่มขู่ เป็นโมฆียะ
- เจ้าหนี้ขู่ให้ลูกหนี้ชำาระเงิน
- ขูใ่ ห้ทำาสัญญาคำ้าประกัน ถ้าไม่ทำาจะฟ้องริบทรัพย์
- ภรรยายำาเกรงสามี
- สุขภาพอนามัย และภาวะแห่งจิตใจ
- พฤติการณ์และสภาพแวดล้อมอื่นๆ
ข้อความจาก ความจำาสั้น..แต่
คำาเสนอ และคำาสนอง
4. สัญญาเกิดขึ้นเมื่อใด ???
- มีคำาเสนอและคำาสนอง ที่เกิดจากบุคคลทั้งสองฝ่าย
- คำาเสนอและคำาสนองนั้น ต้องตรงกัน
- ทั้งสองฝ่ายตกลงใจหรือสมัครใจที่จะก่อให้เกิดผลทางกฎหมาย
คำาเสนอนั้นไม่มีผลผูกพันอีกต่อไป (ม.357)
- การแสดงเจตนานั้นขัดกับเจตนาเดิมของผู้เสนอที่ได้แสดงไว้
คำามั่น
- บุคคลใดได้ให้คำามั่นโดยออกโฆษณาว่าจะให้รางวัลแก่ผู้ซี่งกระทำาการอันใด ถ้ามีผู้กระทำาการสำาเร็จ
ผู้ให้คำามั่นจำาต้องให้รางวัลแก่ผู้กระทำาการนั้น
- ข้อพิจารณามาตรานี้
* เป็นคำาเสนอที่เป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียว และเสนอต่อบุคคลทั่วไป
* มีผลผูกพันให้ผู้ให้คำามั่นต้องปฏิบัติตามคำามั่นที่ตนได้ให้ไว้
คำามั่นต้องให้รางวัลแก่ผู้นั้น
* การประกาศโฆษณา อาจกระทำาได้โดยวิธีใดก็ได้ เช่น ทางวิทยุ ทางโทรทัศน์ ทางหนังสือ
ถอนคำามั่นด้วยวิธีอื่น จะมีผลใช้ได้เฉพาะบุคคลที่รู้เท่านั้น
- คำามั่นว่าจะให้รางวัลที่มีการกำาหนดระยะเวลาไว้ จะถอนคำามั่นนั้นไม่ได้
- แต่ถ้าบุคคลหลายคนทำาการตามที่บ่งบอกไว้สำาเร็จพร้อมกัน ให้แบ่งรางวัลดังนี้
* ถ้ารางวัลนั้นแบ่งแยกไม่ได้ ให้ใช้วิธีจับสลาก
- ต้องมีการกำาหนดระยะเวลาการประกวดแข่งขัน
- ต้องมีการกำาหนดวิธีการและรายละเอียดเกี่ยวกับกติกาการตัดสิน และคณะกรรมการตัดสิน
- คำาตัดสินของคณะกรรมการ ถือว่ามีผลผูกพันตามกฎหมาย
- กรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ทำาการประกวดชิงรางวัลจะตกเป็นของผู้ใด ขึ้นอยู่กับรายละเอียดที่ระบุอยู่ใน
ประกาศโฆษณาครั้งนั้นๆ
ผลแห่งสัญญา
- เป็นกรณีสัญญาต่างตอบแทน ซึ่งคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต่างต้องปฏิบัติต่อกัน
- ถ้าหนี้ใดยังไม่ถึงกำาหนดชำาระหนี้ เจ้าหนี้ไม่มีสิทธิเรียกชำาระหนี้ก่อนกำาหนด
- กรณีสัญญาต่างตอบแทน ซึ่งต้องมีการโอนทรัพยสิทธิในทรัพย์เฉพาะสิ่ง
จะส่งมอบทรัพย์แล้วหรือไม่
- บาปเคราะห์ในภัยพิบัติย่อมตกแก่ฝ่ายเจ้าหนี้
บังคับก่อนยังไม่สำาเร็จ
โทษเจ้าหนี้ไม่ได้
- บาปเคราะห์ในภัยพิบัติย่อมตกแก่ฝ่ายลูกหนี้
* บอกเลิกสัญญา
- ในกรณีที่วัตถุแห่งหนี้นั้นเสียหายเพราะลูกหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทนได้
- กรณีสัญญาต่างตอบแทนซึ่งไม่ต้องมีการโอนทรัพยสิทธิในทรัพย์เฉพาะสิ่ง
- เว้นแต่กรณีการพ้นวิสัยนั้นสามารถโทษเจ้าหนี้ได้ ลูกหนี้มีสิทธิเรียกชำาระหนี้ตอบแทนจากเจ้าหนี้ได้
8. บทบัญญัติมาตราอื่นที่ควรรู้
คัดลอกมาจ่ากพี่ ๆ เพื่อเป็นแนวทางได้ค่ะ
สรุปกฎหมายแพ่ง 1 (41211)
1) นิติกรรมที่ได้สิทธิหรือพ้นหน้าที่ มาตรา 22
2) นิติกรรมที่ต้องทำาเองเป็นการเฉพาะตัว มาตรา 23
3) นิติกรรมที่จำาเป็นในการดำารงชีพ มาตรา 24
3. บุคคลไร้ความสามารถ
1) กรณีการขอให้ศาลสั่งบุคคลผู้วิกลจริตให้เป็นคนไร้ความสามารถ มาตรา 28
4. บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
1) การขอให้ศาลสั่งว่าเป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ มาตรา 32
2) นิติกรรมที่คนเสมือนไร้ความสามารถต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ก่อน มาตรา 34
11. การข่มขู่ มาตรา 164 ขนาดของการข่มขู่ มาตรา 165 บุคคลภายนอกข่มขู่ มาตรา 166
1. คำาเสนอ
2. คำาสนอง
คำาแนะนำาในการศึกษาและตอบข้อสอบ วิชากฎหมายแพ่ง 1
3. การใช้ภาษากฎหมายต่างๆ ต้องแม่นยำา เช่น โมฆะ โมฆียะ สมบูรณ์ ไม่บริบูรณ์ กลฉ้อฉล การฉ้อฉล อย่าใช้สับไปสับมา เพราะคำาเหล่านี้
มีความหมายแตกต่างกัน