Professional Documents
Culture Documents
กฎหมายแพ่ง 2
ข้อสอบวิชากฎหมายแพ่ง 2 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2552
1. ดาวยืมรถเดือนไปเที่ยวงานวันลอยกระทง แต่หลังเสร็จงานลอยกระทง ดาวยังไม่ส่งคืนกลับนำาไปใช้ส่วนตัวต่ออีก 1
สัปดาห์ ระหว่างนั้นฝนตกหนักฟ้ าผ่ารถของเดือนพังทั้งคัน ดาวปฏิเสธว่าไม่ใช่ความผิดของตน เป็ นเหตุสุดวิสย
ั เดือน
มาปรึกษาท่าน ๆ จะให้คำาแนะนำาเดือนว่าอย่างไร
ตามหลักกฎหมายกล่าวว่า (มาตรา 203 วรรค 2)ในหนี้ มีกำาหนดชำาระ ถ้าหากกรณีเป็ นที่สงสัย
ท่านให้สันนิ ฐานไว้ก่อนว่าเจ้าหนี้ จะเรียกให้ชำาระหนี ก่อนถึงเวลานั้นหาไห้ไม่ แต่ฝ่ายลูกหนี้ จะชำาระก่อน
กำาหนดก็ได้ (มาตรา 204 วรรค 2)ถ้าได้กำาหนดเวลาชำาระหนี้ ไว้ตามวันแห่งปฎิทินและลูกหนี้ มิได้ชำาระหนี้ ตามกำา
หนดไซร์ ท่านว่าลูกหนี้ ตกเป็ นผู้ผิดนัดโดยมิพักต้องเตือนเลย วิธเี ดียวกันนี้ ท่านให้ใช้บังคับแก่กรณี ที่ต้องบอกกล่าวล่วง
หน้าก่อนการชำาระหนี้ ซึ่งได้กำาหนดเวลาลงไว้อาจคำานวณนับได้โดยปฎิทินนับแต่เวลาที่ได้บอกกล่าว (มาตรา 217)ลูก
หนี้ จะต้องรับผิดชอบในความเสียหายบรรดาที่เกิดแต่ความประมาทเลินเล่อในระหว่างที่ตนผิดนัด ทั้งจะต้องรับผิดใน
การที่การชำาระหนี้ กลายเป็ นพ้นวิสัยเพราะอุบัตเิ หตุอน
ั เกิดขึ้นในระหว่างที่ผิดนัดด้วย เว้นแต่ความเสียหายนั้นถึงแม้ว่า
ถึงแม้ว่าตนจะได้ชำาระหนี้ ทันเวลากำาหนดก็คงจะต้องเกิดมีอย่น
ู ้ันเอง
ตามเหตุการณ์พอจะอนุมานจากพฤติการณ์ได้ว่าเป็ นหนี้ มีกำาหนดชำาระคือหลังจากเสร็จงาน
ลอยกระทงดาวจะต้องส่งรถคืนในทันทีโดยที่ไม่ต้องเตือนเลย การที่ดาวยังไม่ส่งคืนกลับนำาไปใช้ส่วนตัวต่ออีก 1
สัปดาห์ถือว่าดาวผิดนัด ดังนั้นเมื่อมีเหตุการณ์ฟ้าผ่ารถของเดือนพังทั้งคัน แม้จะเป็ นเหตุสุดวิสัย ดาวก็ต้องรับผิดชอบ
ในความเสียหายบรรดาที่เกิดแต่ความประมาทเลินเล่อในระหว่างที่ตนผิดนัด ทั้งจะต้องรับผิดในการที่การชำาระหนี้
กลายเป็ นพ้นวิสย
ั
ไม่เห็นด้วยกับดาวที่อ้างว่าเป็ นเหตุสุดวิสัย ดาวจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น
2. แดง ขาว นำ้าเงิน ร่วมกันยืมเงินดำา 60,000 บาท ต่อมาดำายกหนี้ ให้น้ ำาเงิน 20,000 บาท และเมื่อถึงกำาหนดชำาระ
ไม่มีใครชำาระ ดำาจึงไปเรียกเอากับนำ้าเงิน นำ้าเงินอ้างว่าดำาได้ยกหนี้ ให้ตนแล้ว ให้ดำาไปเรียกเอาจากแดง และ ขาว ท่าน
เห็นด้วยกับข้ออ้างของนำ้าเงินหรือไม่
ตามหลักกฎหมาย(มาตรา 291)ถ้าบุคคลหลายคนจะต้องทำาการชำาระหนี้ โดยทำานองซึ่งแต่ละคน
จำาต้องชำาระหนี้สิ้นเชิงไซร้ ถึงแม้ว่าเจ้าหนี้ ชอบที่จะได้ชำาระหนี้ สิ้นเชิงได้เพียงครั้งเดียว(กล่าวคือลูกหนี้ ร่วมกัน)ก็ดี เจ้า
หนี้ จะเรียกชำาระหนี้ จากลูกหนี้ แต่คนใดคนหนึ่ งสิ้นเชิงหรือแต่โดยส่วนก็ได้ ตามแต่จะเลือกแต่ลูกหนี้ ท้ังปวงก็ยังคงต้อง
ผูกพันอยู่ท่ัวทุกคนจนกว่าหนี้ น้ันจะได้ชำาระเสร็จสิ้นเชิง (มาตรา 293)การปลดหนี้ ให้แก่ลก
ู หนี้ ร่วมกันคนใดคนหนึ่ งนั้น
ย่อมเป็ นไปเพื่อประโยชน์แก่ลูกหนี้ คนอื่นๆ เพียงเท่าส่วนของลูกหนี้ ท่ีได้ปลดให้ เว้นแต่จะได้ตกลงกันเป็ นอย่างอื่น (มา
ตรา 296)ในระหว่างลูกหนี้
ร่วมกันทั้งหลายนั้น ท่านว่าต่างคนต่างต้องรับผิดเป็ นส่วนเท่าๆ กัน เว้นแต่จะได้กำาหนดไว้เป็ นอย่างอื่น ถ้าส่วนที่ลูกหนี้
ร่วมกันคนใดคนหนึ่ งจะพึงชำาระนั้นเป็ นอันจะเรียกเอาจากคนนั้นไม่ได้ไซร์ ยังขาดจำานวน
อย่เู ท่าไรลูกหนี้ คนอื่นๆ ซึ่งจำาต้องออกส่วนด้วยนั้นก็ตอ
้ งรับใช้ แต่ถ้าลูกหนี้ ร่วมกันคนใดเจ้าหนี้ ได้ปลด ให้หลุดพ้นจาก
หนี้ อันร่วมกันแล้วส่วนที่ลูกหนี้ คนนั้นจะพึงต้องชำาระหนี้ ก็ตกเป็ นพับแก่เจ้าหนี้ ไป
ตามเหตุการณ์การที่แดง ขาว นำ้าเงิน ร่วมกันยืมเงินดำา 60,000 บาท ถือได้ว่าเป็ นลูกหนี้ร่วม ต่างคนต่างต้องรับผิด
เป็ นส่วนเท่าๆ กันคือคนละ 20,000 บาท และการที่ดำายกหนี้ ให้น้ ำาเงิน 20,000 บาทย่อมเป็ น ประโยชน์แก่ลูกหนี้ คน
อื่นๆ เพียงเท่าส่วนของนำ้าเงินคือ 20,000 บาทซึ่งตกเป็ นพับแก่เจ้าหนี้ ไป ดังนั้นยังเหลือหนี้ ท่ีค้างชำาระ 40,000 บาท
ที่แดงและขาวจะต้องชำาระให้แก่ดำาคนละ 20,000 บาท ซึ่งดำาจะมาเรียกกับนำ้าเงินอีกไม่ได้เพราะได้ปลดหนี้ ให้แล้วและ
ไม่ได้ตกลงกันเป็ นอย่างอื่น
เห็นด้วยกับข้ออ้างของนำ้าเงิน ซึ่งดำาจะมาเรียกกับนำ้าเงินอีกไม่ได้ ดำาจะต้องไปเรียกเอาส่วนที่ค้างชำาระ 40,000 บาท
จากแดงและขาวคนละ 20,000 บาท
ตอบ