You are on page 1of 10

เรื่อง หนี้

ม.195 เมื่อทรัพย์ซึ่งเป็ นวัตถุแห่งหนี้ นั้ น ระบุเพียงประเภท


และถ้าตามสภาพนิ ติกรรม หรือเจตนาของค่่กรณี ไม่อาจกำาหนด
ได้ว่าทรัพย์น้ ั นพึงเป็ นชนิ ดอย่างไร ล่กหนี้ ต้องส่งมอบทรัพย์
ชนิ ดปานกลาง
ว.2 ถ้าล่กหนี้ กระทำาการอันพึงต้องทำาเพื่อส่งมอบทรัพย์ส่ิงนั้ น
ทุกประการแล้ว หรือลุกหนี้ ได้กำาหนดทรัพย์ท่ีจะส่งมอบแล้วด้วย
ความยินยอมของเจ้าหนี้ ท่านว่าทรัพย์น้ ั นเป็ นวัตถุแห่งหนี้
จำาเดิมแต่เวลานั้ นไป
ม.203 ถ้าเวลาชำาระหนี้ ไม่ได้กำาหนดไว้ หรทอจะอนุ มานจาก
พฤติกรรมทั้งปวงมิได้ เจ้าหนี้ ย่อมเรียกให้ชำาระหนี้ ได้โดยพลัน
และฝ่ ายล่กหนี้ ก็ย่อมที่จะชำาระหนี้ ของตนได้โดยพลันดุจกัน
ว.2 ถ้าได้กำาหนดเวลาไว้ แต่หากกรณี เป็ นที่สงสัย ให้สันนิ ษฐาน
ไว้ก่อนว่า เจ้าหนี้ จะเรียกให้ชำาระหนี้ ก่อนถึงเวลานั้ นหาได้ไม่ แต่
ฝ่ ายล่กหนี้ จะชำาระหนี้ ก่อนกำาหนดก็ได้
ม.204 ถ้าหนี้ ถึงกำาหนดชำาระแล้ว และภายหลังเจ้าหนี้ ได้เตือน
ล่กหนี้ แล้ว ล่กหนี้ ยังไม่ชำาระหนี้ ไซร้ ล่กหนี้ ได้ช่ ือว่าผิดนั ดเพราะ
เขาเตือนแล้ว
ว.2 ถ้าได้กำาหนดเวลาไว้ตามวันแห่งปฏิทิน และล่กหนี้ มิได้ชำาระ
หนี้ ตามกำาหนด ท่นว่าล่กหนี้ ตกเป็ นผ้่ผด
ิ นั ดโดยมิพักต้องเตือน
เลย
ม.213 ถ้าล่กหนี้ ละเลยเสียไม่ชำาระหนี้ ของตน เจ้าหนี้ จะร้องขอ
ต่อศาลให้สัง่ บังคับชำาระหนี้ ก็ได้ เว้นแต่สภาพแห่งหนี้ ไม่เปิ ดช่อง
ให้ทำาเช่นนั้ น
ม.215 เมื่อล่กหนี้ ไม่ชำาระหนี้ ให้ถ่กต้องตรงตามวัตถุประสงค์
เจ้าหนี้ จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายก็ได้
ม.217 ล่กหนี้ จะต้องรับผิดในความเสียหายที่เกิดจากความ
ประมาทเลินเล่อในระหว่างเวลาที่ตนผิดนั ด ทั้งจะต้องรับผิด
ชอบในการที่การชำาระหนี้ กลายเป็ นพ้นวิสัยเพราะอุบัติเหตุอัน
เกิดขึ้นในระหว่างเวลาที่ตนผิดนั ดด้วย เว้นแต่ความเสียหายนั้ น
ถึงแม้ตนจะได้ชำาระทันเวลากำาหนดก็คงต้องมีอย่่น้ ั นเอง
ม.218 ถ้าการชำาระหนี้ กลายเป็ นพ้นวิสัย ซึ่งล่กหนี้ ต้องรับผิด
ชอบแล้ว ล่กหนี้ ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้
ว.2 ในกรณี การชำาระหนี้ กลายเป็ นพ้นวิสัยเพียงบางส่วน ถ้าหาก
ส่วนที่ยังไม่พ้นวิสัยเป็ นอันไร้ประโยชน์แก้เจ้าหนี้ แล้ว เจ้าหนี้ จะ
ไม่ยอมรับส่วนนั้ นก็ได้ และเรียกค่าสินไหมทดแทนทั้งหมดที
เดียวก็ได้
ม.219 ถ้าการชำาระหนี้ กลายเป็ นพ้นวิสัยเกิดขึ้นภายหลังที่ได้ก่อ
หนี้ ซึ่งล่กหนี้ ไม่ต้องรับผิดชอบนั้ น ล่กหนี้ เป็ นอันหลุดพ้นจาก
การชำาระหนี้ นั้ น
ว.2 ถ้าภายหลังที่ได้ก่อหนี้ ล่กหนี้ กลายเป็ นคนไม่สามารถชำาระ
หนี้ ได้ให้ถือเสมือนว่าการชำาระหนี้ ตกเป็ นพ้นวิสัย
ม.221 หนี้ เงินอันต้องเสียดอกเบี้ยนั้ น ท่านว่าจะคิดดอกเบี้ยใน
ระหว่างเจ้าหนี้ ผิดนั ดหาได้ไม่
ม.222 เจ้าหนี้ จะเรียกเอาค่าสินไหมทดแทนได้ แม้กระทั้งความ
เสียหายอันเกิดแต่พฤติการณ์พิเศษ หากว่าค่่กรณี ท่ีเกี่ยวข้องได้
คาดเห็น หรือควรจะได้คาดเห็นพฤติการณ์น้ ั นล่วงหน้าก่อนแล้ว
ม.223 ถ้าผ้เ่ สียหายได้มีส่วนทำาความผิดอันก่อให้เกิดความเสีย
หายด้วยไซร้ ท่านว่าหนี้ อันจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผ้่เสีย
หาย มากน้อยเพียงใด ต้องอาศัยพฤติการณ์เป็ นประมาณว่า
ความเสียหายนั้ นได้เกิดขึ้นเพราะฝ่ ายไหนเป็ นผ้่ก่อยิ่งหย่อนกว่า
กันเพียงไร

รับช่วงสิทธิ
ม.227 เมื่อเจ้าหนี้ ได้รบ
ั ค่าสินไหมทดแทนเต็มตามราคาทรัพย์
หรือสิทธิซึ่งเป็ นวัตถุแห่งหนี้ แล้ว ล่กหนี้ ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของ
เจ้าหนี้ อันเกี่ยวกับทรัพย์หรือสิทธิน้ ั นๆ
ม.228 ถ้าพฤติการณ์ท่ีทำาให้การชำาระหนี้ เป็ นพ้นวิสัย ทำาให้ล่ก
หนี้ ได้มาซึ่งของแทน หรือได้สิทธิเรียกร้องค่าสินไหมอันจะพึง
ได้แก่ตนก็ดี ท่านว่าเจ้าหนี้ จะเรียกให้ส่งมอบของแทนนั้ น หรือ
เรียกค่าสินไหมทดแทนเสียเองก็ได้
ว.2 ถ้าเรียกค่าสินไหมทดแทน ค่าสินไหมนั้ นย่อมลดลงเพียง
เสมอราคาแห่งของแทนซึ่งล่กหนี้ ได้รบ
ั ไว้ หรือเสมอจำานวนค่า
สินไหมที่ล่กหนี้ จะเรียกร้องได้น้ ั น

ลูกหนี้ และเจ้าหนี้ หลายคน


ม.290 ถ้าการชำาระหนี้ เป็ นการอันจะแบ่งชำาระได้ และมีบุคคล
หลายคนเป็ นล่กหนี้ ก็ดี เจ้าหนี้ ก็ดี เมื่อกรณี เป็ นที่สงสัย ท่านว่า
ล่กหนี้ แต่ละคนต้องรับผิดเป็ นส่วนเท่าๆกัน และเจ้าหนี้ แต่ละคน
ชอบที่จะได้รบ
ั เพียงส่วนเท่าๆกัน
ม.291 ถ้าบุคคลหลายคนต้องทำาการชำาระหนี้ โดยแต่ละคนต้อง
ชำาระหนี้ ทั้งสินเชิงไซร้ แม้เจ้าหนี้ ชอบที่จะได้รบ
ั ชำาระหนี้ สิ้นเชิง
ได้แต่เพียงครั้งเดียวก็ดี (ล่กหนี้ ร่วม)
เจ้าหนี้ จะเรียกชำาระหนี้ จากล่กหนี้ คนใดคนหนึ่ งสิ้นเชิงหรือโดย
ส่วนแล้วแต่จะเลือก แต่ล่กหนี้ ทุกคนก็ยังคงต้องผ่กพันจนกว่า
หนี้ นั้ นจะได้ชำาระเสร็จสิ้นเชิง
ม.292 การที่ล่กหนี้ ร่วมคนหนึ่ งชำาระหนี้ ย่อมเป็ นประโยชน์แก่
ล่กหนี้ คนอื่นๆด้วย
ว.2 ล่กหนี้ ร่วมคนหนึ่ งมีสิทธิเรียกร้องอย่างไร ล่กหนี้ คนอื่นจะ
เอาสิทธิอันนั้ นไปหักกลบลบหนี้ หาได้ไม่
ม.293 การปลดหนี้ ให้ล่กหนี้ ร่วมคนหนึ่ ง ย่อมเป็ นประโยชน์แก่
ล่กหนี้ คนอื่นๆ เพียงเท่าส่วนของล่กหนี้ ที่ได้ปลดให้
ม.295 ข้อความจริงอื่นใด เช่น การให้คำาบอกกล่าว การผิดนั ด
การหยิบยกอ้างความผิดการชำาระหนี้ ตกเป็ นพ้นวิสัย กำาหนดอายุ
ความ หรืออายุความสะดุด และการที่สิทธิเรียกร้องเกลื่อนกลืน
กันไปกับหนี้ สิน
ซึ่งเป็ นการเท้าความถึงตัวล่กหนี้ ร่วมคนใด ย่อมเป็ นไปเพื่อคุณ
และโทษแก่ล่กหนี้ คนนั้ น เว้นแต่ขัดกับสภาพแห่งหนี้ นั้ นเอง
ม.296 ในระหว่างล่กหนี้ ร่วมกัน ต่างคนต่างต้องรับผิดเป็ นส่วน
เท่าๆกัน เว้นแต่จะกำาหนดเป็ นอย่างอื่น
ม.301 ถ้าบุคคลหลายคนเป็ นหนี้ อันจะแบ่งกันชำาระมิได้ บุคคล
เหล่านั้ นต้องรับผิดเช่นล่กหนี้ ร่วมกัน
ม.302 ถ้าการชำาระหนี้ เป็ นการจะแบ่งชำาระมิได้ และมีบุคคล
หลายคนเป็ นเจ้าหนี้ ถ้าบุคคลเหล่านั้ นมิได้เป็ นเจ้าหนี้ ร่วมกัน
ไซร้ ท่านว่าล่กหนี้ ได้แต่ชำาระหนี้ ให้ได้ประโยชน์แก่บุคคลเหล่า
นั้ นทั้งหมดด้วยกัน
ม.305 เมื่อโอนสิทธิเรียกร้องไป สิทธิจำานอง จำานำา หรือคำ้า
ประกันที่เกี่ยวพันกับสิทธิเรียกร้องนั้ น ย่อมตกไปแก่ผ้่รบ
ั โอน
ด้วย
ม.306 การโอนหนี้ ต้องทำาเป็ นหนั งสือ และจะยกเป็ นข้อต่อส้่ล่ก
หนี้ หรือบุคคลภายนอกได้ต่อเมื่อได้บอกกล่าวการโอนไปยังล่ก
หนี้ หรือล่กหนี้ ได้ยินยอมด้วยในการโอนนั้ น คำาบอกกล่าวหรือ
ยินยอมเช่นว่านั้ น ต้องทำาเป็ นหนั งสือ
ม.308 ถ้าล่กหนี้ ได้ให้ความยินยอมในการโอนหนี้ จะยกข้อต่อส้่
ที่มีต่อผ้่โอน ขึ้นต่อส้่ผ้่รบ
ั โอนหาได้ไม่
ว.2 แต่ถ้าล่กหนี้ เพียงแต่ได้รบ
ั คำาบอกกล่าวการโอน ล่กหนี้ ยก
ข้อต่อส้่ท่ีมีต่อผ้่โอนก่อนเวลาที่ได้รบ
ั คำาบอกกล่าว ขึ้นต่อส้่ผ้่รบ

โอนได้

ปลดหนี้
ม.340 ถ้าเจ้าหนี้ แสดงเจตนาต่อล่กหนี้ ว่าจะปลดหนี้ ให้ หนี้ นั้ น
เป็ นอันสิ้นไป แต่ถ้าหนี้ มีหนั งสือเป็ นหลักฐาน การปลดหนี้ ก็
ต้องทำาเป็ นหนั งสือ หรือเวนคืนเอกสาร หรือขีดฆ่าเอกสารนั้ น
เสีย

เรื่อง หักกลบลบหนี้
ม.341 บุคคล 2 คน ต่างมีความผ่กพันซึ่งกันและกันโดยม่ลหนี้
อันมีวัตถุประสงค์เป็ นอย่างเดียวกันและหนี้ ทั้ง 2 รายถึงกำาหนด
ชำาระ ฝ่ ายใดฝ่ ายหนึ่ งจะหักกลบลบหนี้ ได้ เท่าจำานวนที่ตรงกัน
ในม่ลหนี้ ทั้งสองฝ่ ายนั้ น เว้นแต่สภาพแห่งหนี้ ไม่เปิ ดช่อง

เรื่อง แปลงหนี้ ใหม่


ม.349 เมื่อค่่กรณี ท่ีเกี่ยวข้องได้ทำาสัญญาเปลี่ยนสิ่งซึ่งเป็ นสาระ
สำาคัญแห่งหนี้ ไซร้ ท่านว่าหนี้ นั้ นเป็ นอันระงับสิ้นไปด้วยแปลง
หนี้ ใหม่
ม.351 ถ้าหนี้ อันจะเกิดขึ้นเพราะแปลงหนี้ ใหม่น้ ั น ไม่ได้เกิดขึ้น
ก็ดี ได้บกเลิกเสียก็ดี หนี้ เดิมนั้ นหาระงับสิ้นไปไม่

เรื่อง ลาภมิควรได้
ม.406 บุคคลใด ได้มาซึ่งทรัพย์ส่ิงใด เพราะการชำาระหนี้ ก็ดี
หรือด้วยประการอื่นก็ดี โดยปราศจากม่ลอันจะอ้างกฎหมายได้
และเป็ นทางให้อีกบุคคลหนึ่ งเสียเปรียบ จ้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา

เรื่อง ละเมิด
ม.420 ผ้่ใดจงใจ หรือประมาทเลินเล่อ ทำาต่อบุคคลอื่นโดยผิด
กฎหมายให้เขาเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ
ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่ งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผ้่น้ ั นทำาละเมิด
จำาต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้ น
ม.421 การใช้สิทธิซ่ึงมีแต่จะทำาให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น
นั้ น เป็ นการอันมิชอบด้วยกฎหมาย
ม.425 **นายจ้างต้องร่วมกันรับผิดกับล่กจ้างในผลแห่งละเมิด
ซึ่งล่กจ้างได้กระทำาไปในทางการที่จ้าง
ม.426 นายจ้างซึ่งได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอก
เพื่อละเมิด อันล่กจ้างได้ทำาไปนั้ น มีสิทธิไล่เบี้ยได้จากล่กจ้าง
ม.427* บทบัญญัติ มาตรา 425 , 426 ให้ใช้บังคับแก่ตัวการ
และตัวแทนโดยอนุ โลม
ม.428 ผ้่วา่ จ้างทำาของไม่ต้องรับผิดเพื่อความเสียหายอันผ้่รบ

จ้างได้ก่อให้เกิดขึ้นแก่บุคคลภายนอกในระหว่างทำาการงานที่จ้าง
เว้นแต่ ผ้่ว่าจ้างมีส่วนผิดในการงานที่สัง่ ให้ทำา หรือในคำาสัง่ ที่ตน
ให้ไว้ หรือในการเลือกหาผ้่รบ
ั จ้าง
ม.429 บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเป็ นผ้่เยาว์ หรือ
วิกลจริต ก็ยังคงต้องรับผิดในผลละเมิดที่ตนกระทำาละเมิด บิดา
มารดาหรือผ้่อนุ บาลย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่
พิส่จน์ได้ว่าตนได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่ด่แลซึ่ง
ทำาอย่่น้ ั นแล้ว
ม.430 คร่ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นจำาต้องรับผิดร่วมกับผ้่ไร้ความ
สารถในการละเมิดซึ่งเขาได้กระทำาลงในระหว่างที่อย่่ในความ
ด่แลของตน
ม.434 ถ้าความเสียหายเกิดเพราะเหตุท่ี โรงเรือน หรือสิ่งปล่ก
สร้างอื่นชำารุดบกพร่อง ผ้่ครองเรือนจำาต้องชดใช้ค่าสินไหม
ทดแทน แต่ถ้าผ้่ครองได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควรแล้ว ผ้่
เป็ นเจ้าของจำาต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
ม.436 บุคคลผ้่อย่่ในโรงเรือนต้องรับผิดชอบในความเสียหายอัน
เกิดเพราะของตกหล่น หรือทิ้งขว้างของไปตกในที่อันมิควร
ม.437 บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมด่แลยานพาหนะอย่าง
ใดๆ อันเดินด้วยกำาลังเครื่องจักรกล บุคคลนั้ นจะต้องรับผิดชอบ
เพื่อความเสียหายอันเกิดจากยานพาหนะนั้ น เว้นแต่พิส่จน์ได้ว่า
ความเสียหายนั้ นเกิดขึ้นจากเหตุสุวิสัยหรือความผิดของผ้่เสีย
หายนั้ นเอง
ว. 2 ความข้อนี้ ให้ใช้ไปถึงบุคคลผ้่ครอบครองทรัพย์อันเป็ นของ
เกิดอันตรายได้โดยสภาพด้วย

ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด
ม.438 ค่าสินไหมทดแทน จะพึงใช้เพียงใดให้ศาลวินิจฉัยตาม
ควรแก่พฤติการณ์น้ ั น
ว. 2 ค่าสินไหมนั้ นได้แก่ การคืนทรัพย์สินอันต้องเสียไป หรือใช้
ราคา รวมทั้งค่าเสียหายใดๆอันได้ก่อขึ้นนั้ นด้วย
ม.441 ถ้าบุคคลจำาต้องใช้ค่าสินไหมเพื่อความเสียหายอย่างใดๆ
เพราะเอาสังหาริมทรัพย์ไปก็ดี หรือทำาของเขาให้บุบสลายก็ดี
เมื่อได้ใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลซึ่งเป็ นผ้่ครองทรัพย์ ผ้่ทำา
ละเมิดย่อมหลุดพ้นจากหนี้ ที่ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
ม.442*ถ้าความเสียหายได้เกิดขึ้น เพราะความผิดอย่างหนึ่ ง
อย่างใดของผ้่ต้องเสียหายประกอบด้วย ให้นำา มาตรา 223 คือ
เรื่องความเสียหายนั้ นได้เกิดขึ้นเพราะฝ่ ายไหนเป็ นผ้่ก่อยิ่ง
หย่อนกว่ากันเพียงไร มาใช้บังคับโดยอนุ โลม
ม.443 ในกรณี ทำาให้เขาถึงตายนั้ น ค่าสินไหมทดแทนได้แก่ค่า
ปลงศพ รวมทั้งค่าใช้จ่ายอันจำาเป็ นอื่นๆด้วย
ว.2 ถ้ามิได้ตายในทันทีค่าใช้จ่ายได้แก่ค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งค่า
เสียหายที่ต้องขาดประโยชน์จากรายได้ เพราะไม่สามารถ
ประกอบการงานนั้ นด้วย
ว.3 ถ้าเหตุท่ีตายทำาให้บุคคลใดต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมาย
ไปด้วย บุคคลนั้ นชอบที่นะได้รบ
ั ค่าสินไหมทดแทน
ม.446 ในกรณี ทำาให้เขาเสียหายแก่ร่างกาย อนามัย หรือ
เสรีภาพ ผ้ต
่ ้องเสียหายจะเรียกร้องค่าสินไหมอย่างอื่นอันมิใช่ตัว
เงินด้วยอีกก็ได้ สิทธิเรียกร้องนี้ โอนกันไม่ได้ และไม่ตกถึง
ทายาท เว้นแต่สิทธิน้ ั นจะได้รบ
ั สภาพกันไว้โดยสัญญา หรือได้
เริม
่ ฟ้ องคดีตามสิทธิน้ ั นแล้ว
ว.2 หญิงที่ต้องเสียหายเพราะผ้่ทำาผิดทางอาญาเป็ นทุรศีลธรรม
ก็มีสิทธิเรียกร้องทำานองเดียวกันนี้
ม.448 สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่ม่ลละเมิด ท่านว่าขาด
อายุความเมื่อพ้น 1 ปี นั บแต่ร้่ถึงการละเมิดและร้่ตัวผ้่กระทำาผิด
หรือ 10 ปี นั บตั้งแต่วันที่ทำาละเมิด

You might also like