Professional Documents
Culture Documents
นิติกรรม และการแสดงเจตนา
นิติเหตุ
1. นิติเหตุ คือ เหตุการณ์ใดๆ ที่ทำาให้เกิดการเคลื่อนไหวในสิทธิตามกฎหมาย
2. นิติเหตุ แบ่งได้ 2 แบบ คือ
2.1 แบบที่แบ่งตามประเภท ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
2.1.1 นิติเหตุที่เกิดจากเหตุการณ์ธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น
- การเกิด (ม.15) - การตาย (ม.1599)
- บรรลุนิติภาวะ (ม.19) - ที่งอกริมตลิ่ง (ม.1308)
2.1.2 นิติเหตุที่เกิดจากการกระทำาของบุคคล ซึ่งยังแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
(1) การกระทำาที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งยังแบ่งย่อยออกไปอีกเป็น 2 ประเภท คือ
(1.1) การกระทำาของบุคคลที่ชอบด้วยกฎหมาย ตัวอย่างเช่น
- นิติกรรม (ม.149)
(1.2) การกระทำา ของบุคคลที่เกิดขึ้นเองโดยอำา นาจกฎหมาย ตัวอย่าง
เช่น
- การจัดการงานนอกสั่ง (ม.395) - ล า ภ มิ ค ว ร ไ ด้
(ม.406)
(2) การกระทำาที่มิชอบด้วยกฎหมาย ตัวอย่างเช่น
- การกระทำาละเมิด (ม.420)
2.2 แบบที่แบ่งตามความหมาย ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
2.2.1 นิติเหตุในกฎหมายอย่างกว้าง
(1) นิติเหตุที่เกิดจากเหตุการณ์ธรรมชาติ
(2) นิติเหตุที่เกิดจากการกระทำาของบุคคล
(2.1) การกระทำาที่ชอบด้วยกฎหมาย
- การกระทำาของบุคคลที่ชอบด้วยกฎหมาย
- การกระทำาของบุคคลที่เกิดผลขึ้นเองโดยอำานาจกฎหมาย
(2.2) การกระทำาที่มิชอบด้วยกฎหมาย
2.2.2 นิติเหตุในกฎหมายอย่างแคบ คือ หมายเฉพาะเหตุที่เกิดขึ้นมีผลในกฎหมายโดยอำานาจ
ของกฎหมายโดยแท้จริง ได้แก่
(1) การกระทำาของบุคคลที่เกิดผลขึ้นเองโดยอำานาจกฎหมาย
(2) การกระทำาที่มิชอบด้วยกฎหมาย
3. รายละเอียดข้างต้น ทำาให้ทราบว่า
2
การแสดงเจตนา
1. หลักสำาคัญในการทำานิติกรรม คือ การแสดงเจตนาเพื่อจะให้เกิดผลผูกพันกันทางกฎหมาย หรือเข้าใจกัน
โดยทั่วไปว่า “หลักส่งเจตนา” ซึ่งสามารถแยกพิจารณาได้เป็น 2 ประเภท คือ
(1) การแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้อยู่เฉพาะหน้า (ม.168)
(2) การแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้อยู่ห่างโดยระยะทาง (ม.169)
2. มาตรา 168 ได้วางหลักกฎหมายเกี่ยวกับ “การแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้อยู่เฉพาะหน้า” ไว้ดังนี้
- การแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้อยู่เฉพาะหน้า ให้ถือว่ามีผลเมื่อผู้รับเจตนาได้ทราบและเข้าใจเจตนา
นัน้
- ความนี้ให้หมายรวมถึง การแสดงเจตนาโดยทางโทรศัพท์ หรือเครื่องมือสื่อสารอื่น เช่น วิทยุ
สื่อสาร
- การแสดงเจตนาที่ส่งออกไปแล้ว ภายหลังผู้แสดงเจตนาตาย หรือศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความ
สามารถ
หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ถือว่าการแสดงเจตนานั้นยังมีผลอยู่
- การเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร แล้วให้อีกฝ่ายได้อ่านและเข้าใจกันได้ทันที ก็ใช้ได้เช่นกัน
- การแสดงเจตนาทางโทรเลขหรือโทรสาร ไม่ถือว่าเป็นการแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้อยู่เฉพาะหน้า
3. มาตรา 169 ได้วางหลักกฎหมายเกี่ยวกับ “การแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้อยู่ห่างโดยระยะทาง” ไว้ดังนี้
- การแสดงเจตนาต่อบุคคลผู้อยู่ห่างโดยระยะทาง ให้ถือว่ามีผลเมื่อเจตนานั้นถูกส่ง “ไปถึง” ผู้รับ
เจตนา
- ถ้าจะถอนการแสดงเจตนา ผู้แสดงเจตนาจะต้องส่งคำา ถอนนั้นไปถึงผู้รับเจตนาก่อนหรือพร้อม
กับการ
แสดงเจตนาดังกล่าวไปถึง
- การแสดงเจตนาที่ส่งออกไปแล้ว ภายหลังผู้แสดงเจตนาตาย หรือศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความ
สามารถ
5
หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ถือว่าการแสดงเจตนานั้นยังมีผลอยู่
- เจตนานั้นถูกส่งไปถึง หมายความว่า เพียงแค่บุรุษไปรษณีย์ไปส่งให้ที่ตู้จดหมายหน้าบ้าน หรือ
ให้คน
ในบ้านคนหนึ่งคนใดรับแทน ก็ใช้ได้แล้ว
4. กรณี “ผู้อนื่ ” แสดงเจตนาทำานิติกรรมต่อผู้เยาว์ หรือคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ จะ
มีผลทางกฎหมายหรือไม่ อย่างไร ?? ..............มาตรา 170 ได้วางหลักกฎหมายไว้ ดังนี้
- การแสดงเจตนาทำานิติกรรมกับผู้เยาว์ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ต้องให้ผู้แทนโดยชอบ
ธรรม
หรือผู้พิทักษ์ยินยอมก่อน แล้วแต่กรณี มิฉะนัน้ การแสดงเจตนานั้นไม่เป็นผล
- การแสดงเจตนาทำานิติกรรมกับคนไร้ความสามารถ ต้องให้ผู้อนุบาลรับรู้ก่อน มิฉะนั้นการแสดง
เจตนานั้นไม่เป็นผล
- การแสดงเจตนาทำา นิติกรรมของผู้เยาว์ ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุ รกิ จการค้า หรือ การจ้าง
แรงงาน
ตาม ม.27 หรือของคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งนอกเหนือจาก 11 กรณีที่ระบุอยู่ใน ม.34 ไม่
เข้า
มาตรานี้
5. กฎหมายได้วางหลักเกี่ยวกับการตีความแสดงเจตนาไว้ว่า ถ้าการแสดงเจตนามีข้อสงสัย ให้คำานึงถึงเจตนา
ที่แท้จริง มากกว่าถ้อยคำาสำานวนหรือตามตัวอักษร (ม.171)
หลักขัดขวางการแสดงเจตนา
1. นอกจากการแสดงเจตนาที่กฎหมายให้กระทำาได้ตาม “ หลักส่งเจตนา” แล้ว ยังมีการแสดงเจตนาที่กฎหมาย
ไม่ต้องการให้กระทำากันขึ้น เพราะจะไปกระทบต่อผลประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม หรือเข้าใน
โดยทั่วไปว่า “หลักการขัดขวางเจตนา”
2. หลักการขัดขวางเจตนา มีบทบัญญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 4 มาตรา คือ
(1) การทำานิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ผิดกฎหมาย เป็นการพ้นวิสัย หรือเป็นการขัดต่อความสงบ
เรียบ
ร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน (ม.150)
(2) นิติกรรมที่มีข้อตกลงแตกต่างกับบทบัญญัติของกฎหมาย (ม.151)
(3) นิติกรรมที่ไม่ได้ทำาถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำาหนด (ม.152)
(4) นิติกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสามารถของบุคคล (ม.153)
3. มาตรา 150 ได้วางหลักกฎหมายเกี่ยวกับ “นิติกรรมที่มุ่งประสงค์ต่อประโยชน์สุดท้าย” ไว้ ดังนี้
- นิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์ต้องห้ามหรือผิดกฎหมายโดยชัดแจ้ง ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายรู้ถึงวัตถุประสงค์
ถือ
6
การควบคุมการแสดงเจตนา
1. การควบคุมการแสดงเจตนา แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ
(1) การแสดงเจตนาที่ไม่ตรงกับเจตนาที่แท้จริง แบ่งย่อยออกเป็น
- การแสดงเจตนาซ่อนเร้น (ม.154)
- การแสดงเจตนาลวง (ม.155 ว.1)
- นิติกรรมอำาพราง (ม.155 ว.2)
(2) การแสดงเจตนาวิปริต (เจตนาโดยไม่สมัครใจ) แบ่งย่อยออกเป็น
- การแสดงเจตนาโดยสำาคัญผิด (ม.156 – 158)
- การแสดงเจตนาโดยถูกกลฉ้อฉล (ม.159 – 163)
7